วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

กลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว1

25/12/52
ตั้งเป้าต่างชาติเที่ยวไทยปีหน้า 14 ล้านคน

Posted on Friday, December 25, 2009
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว บอกว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยในปี 2553 จะเกิน 14 ล้านคน และเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวจะสะพัดประมาณ 6 แสนล้านบาท โดยการท่องเที่ยวในปีหน้าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงประมาณ 10-15% จากระดับปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่สงบนิ่ง จะเป็นปัจจัยบวกส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น

สำหรับปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในปีหน้า คือ สถานการณ์การเมืองในประเทศ แต่หากปีหน้าการเมืองยังคงสงบนิ่งคล้ายคลึงกับสถานการณ์ปัจจุบันก็จะทำให้การท่องเที่ยวเป็นไปตามที่คาดการณ์ได้

นายเจริญบอกด้วยว่า การท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น เมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาและเม็ดเงินที่มาจากการท่องเที่ยวจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30% เนื่องจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นส่งผลให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น และกล้าใช้จ่ายมากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์การเมืองที่คลี่คลายลงไป ทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมาเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่พักผ่อน
money news update**********
20/11/52
เที่ยวไทยสะดุดรับอาฟตา
โพสต์ทูเดย์
— กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ขอเลื่อนเปิดอาฟตาด้านบริการไปอีก 5 ปี เหตุบุคลากรท่องเที่ยวไทยยังไม่พร้อม เล็งปันงบ 200 ล้าน ปั้นหลักสูตรพัฒนาด่วน

น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเจรจาขอเลื่อนเปิดเสรีการค้าอาเซียน (อาฟตา) ภาคบริการการท่องเที่ยวออกไปเป็นปี 2558 จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดในปี 2553 เนื่องจากต้องการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้มีความพร้อมและศักยภาพด้านการแข่งขัน
ศศิธารา

ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมของบประมาณในโครงการเงินกู้ไทยเข้มแข็งเฟส 2 (SP 2) จำนวน 200 ล้านบาท เพื่อจัดหลักสูตรการฝึกอบรบบุคลากรด้านการท่องเที่ยวจำนวน 242 หลักสูตร เช่น สาขาที่พัก สาขาการเดินทาง ฯลฯ

สำหรับหลักสูตรดังกล่าวต้องมีความตกลงยอมรับร่วมกันในคุณสมบัติของบุคลากรวิชาชีพท่องเที่ยวแห่งอาเซียน หรือ MRA ซึ่งหลักสูตรที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จัดทำขึ้น จะนำเสนอให้ที่ประชุมอาเซียนพิจารณาและรับรองหลักสูตรทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้เกิดการยอมรับก่อนเซ็นลงนาม

ปัจจุบันมีหลักสูตรที่จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เช่น หลักสูตรพนักงานต้อนรับในโรงแรม ที่ได้เปิดฝึกอบรมรอบทดลองหลักสูตรควบคู่กับการพัฒนา เพื่อปรับปรุงหลักสูตรให้มีความแข็งแกร่ง โดยร่วมมือกับกระทรวงแรงงานในการออกใบรับประกันการผ่านงาน

ผู้อบรมสามารถนำใบดังกล่าวนี้ออกไปสมัครงานในกลุ่มประเทศอาเซียนอีก 9 ประเทศได้ หลังจากกลุ่มอาเซียนเซ็นยอมรับในหลักสูตรอบรมมาตรฐานฉบับนี้แล้ว

กระทรวงการท่องเที่ยวฯ คาดหวังว่า หลักสูตรต่างๆ ที่จัดทำขึ้น จะใช้เป็นต้นแบบการฝึกบุคลากรและเป็นที่ยอมรับในสังคมประเทศอาเซียนในอนาคต ช่วยในการออกไปทำงานต่างประเทศได้มากขึ้น

น.ส.ศศิธารา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมตั้งคณะกรรมการ MRA ระดับกระทรวง รวมถึงเตรียมจัดการโรดโชว์ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการ เปิดเอฟทีเอ ให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดหลักและแหล่งท่องเที่ยว เช่น จ.ชลบุรี และขอนแก่น
posttoday**********
13/11/52
ท่องเที่ยวไทย-กัมพูชากระทบหนัก ทัวร์หด

ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ ผู้ประกอบการระบุนักท่องเที่ยวหันไปเวียดนามแทน
นางจามรี รัตนวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สบาย สบาย ทัวร์แทรเวล จำกัด กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศเป็นอย่างมากเพราะลูกทัวร์พากันยกเลิกโปรแกรมการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ เสียมราฐ นครวัด นครธม ประเทศกัมพูชา เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย

"ปกติแล้วถือว่าช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมของทุกปี จะเป็นช่วงไฮซีซั่น การเที่ยวประเทศกัมพูชา เพราะอากาศเย็นสบาย น่าไปท่องเที่ยว แต่จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้นักท่องเที่ยวหันไปท่องเที่ยวยังประเทศสปป.ลาว ผ่านไปยังประเทศเวียดนามแทน" นางจามรีกล่าว
krungthepturakij
***********
10/11/52
ททท พาเอกชน 120 รายลุยลอนดอน ดึงนักท่องเที่ยว 7 แสนราย
ททท นำผู้ประกอบการท่องเที่ยว จำนวนกว่า 120 ราย ร่วมงาน WTM 2009 กรุงลอนดอน 9-12 พ.ย.นี้ หวังดึงนักท่องเที่ยว 7 แสนคน รัฐจัดงบไทยเข้มแข็ง 8 ล้านบาท ส่งเสริมการขายร่วมกับบริษัทนำเที่ยวชั้นนำในประเทศอังกฤษ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำโดยนายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวิชัย ศรีขวัญ ประธานกรรมการ ททท.นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการ ททท. พร้อมคณะผู้บริหารของกระทรวงฯ และคณะผู้บริหาร ททท. เชิญผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย ทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 120 ราย เข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวระดับโลกในงาน World Travel Market 2009 (WTM 2009) ระหว่างวันที่ 9 – 12 พฤศจิกายน 2552 ณ Excel Exhibition Centre กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

นายธเนศน์ เพชรสุวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกรุงลอนดอน ททท กล่าวว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวอังกฤษขณะนี้เริ่มเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2552 ตั้งเป้านักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งสิ้น 7 แสนคน

ทั้งนี้ จากจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เนื่องจาก สถานการณ์วิกฤติเศราฐกิจทางการเงินของอังกฤษเริ่มดีขึ้น สถานการณ์การเมืองภายในประเทศไทยเริ่มคลีคลายไปในทางที่ดีส่งผลให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางเพิ่มขึ้น

ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกรุงลอนดอน กล่าวด้วยว่า สำหรับงาน WTM2009 เป็นงานเจรจาซื้อขายธุรกิจการท่องเที่ยวครั้งแรกสำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวในปี 2553 โดยมีภาคเอกชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาทิ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจสปา ซึ่งในปีนี้ ททท สำนักงานลอนดอนได้รับงบประมาณพิเศษจากโครงการไทยเข้มแข็งจำนวน 8 ล้านบาท เน้นส่งเสริมการขายร่วมกับบริษัทนำเที่ยวชั้นนำในประเทศอังกฤษจำนวน 15 ราย
manager online
**********
04/11/52
สมาคมการท่องเที่ยวเอเชียฯคาดนักท่องเที่ยวปีนี้หดตัว 5%

สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าในเอเชียจะหดตัวลง 5% ในปีนี้ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นในปีหน้า และจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในปี 2554

เกร็ก ดัฟเฟลล์ ประธานสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคกล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในเอเชียค่อนข้างแตกต่างกันในแต่ละประเทศ โดยประเทศจีนและเกาหลีใต้ขยายตัวคึกคัก แต่ประเทศอื่นๆ เช่น ไทย และเวียดนามยังคงซบเซา

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางความหวังต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก แต่ยอดผู้โดยสารขาเข้าในภูมิภาคดังกล่าวมีแนวโน้มจะหดตัวลง 4-5% ในปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นราว 2-3% ในปีหน้า และคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในปี 2554

ดัฟเฟลล์กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจีนได้รับปัจจัยหนุนจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งทางสมาคมคาดว่าจะมีชาวจีน 20 ล้านคนออกเดินทางไปต่างประเทศในปีนี้

ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ก็ได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินวอน เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวในอินโดนีเซียและมาเลเซียที่ค่อนข้างคึกคัก

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเวียดนาม ซึ่งเคยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดฮิตเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมากลับเริ่มซบเซาลง หลังราคาข้าวของเริ่มแพงขึ้น

ขณะที่การท่องเที่ยวในประเทศไทยก็เหงียบเหงาไม่แพ้กัน ท่ามกลางปัญหาขาดเสถียรภาพทางการมือง และด้วยความที่ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการบินที่สำคัญในภูมิภาค ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศจึงส่งผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวในเอเชีย

ดัฟเฟลล์กล่าวทิ้งท้ายว่า "แม้ว่าจะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ชาวเอเชียยังต้องการที่จะเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่จะขยายตัวในอนาคต และจีนก็เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการขยายตัวดังกล่าว"
money wake up
************
คาดยอดนักท่องเที่ยวปีนี้ได้ตามเป้าที่ 14 ล้านคน

Posted on Thursday, October 29, 2009
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกถึงการเตรียมประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ในวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคมนี้ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมนำเสนอผลงานด้านนโยบายท่องเที่ยว ใน 3 ประเด็น ได้แก่

- มาตรการสร้างความเชื่อมั่นและฟื้นฟูภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศ
- มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวทุกประเภทที่เดินทางเข้าประเทศไทย การลดหย่อนค่าธรรมเนียมขึ้นลงสนามบิน การลดหย่อนค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานแห่งชาติ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
- การยกระดับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการทำงาน

สำหรับโครงการการประกันภัยนักท่องเที่ยว กรณีเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยและได้รับอันตรายจากเหตุจลาจล
ซึ่งจัดทำร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และสมาคมประกันวินาศภัยนั้น ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว บอกว่า จะมีการเจรจาเพื่อปรับลดอัตราเบี้ยประกันภัยอีกครั้ง เนื่องจากมองว่าขณะนี้สถานการณ์ภายในประเทศกลับสู่ภาวะปกติแล้ว

ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว ฯ บอกด้วยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมามียอดนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศประมาณ 11 ล้านคน ดังนั้นเชื่อว่าทั้งปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศ 14 ล้านคน ตามเป้าตั้งไว้อย่างแน่นอน
money news update
*********
กลุ่มการท่องเที่ยวและการโรงแรม

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Brokers’ top pick

Brokers’ top pick
25/11/52
cgs:underwieght;ict
cgs:neutral ;car
tns:cpf
24/11/52
**บล. กรุงศรีอยุธยา - เลือกหุ้น Top Pick ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไว้ 2 ตัว คือ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และบมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO)
**บล. ฟิลลิป - แนะนำ "ลงทุนมากกว่าปกติ" สำหรับกลุ่มธนาคารพาณิชย์
- ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ให้ราคาไว้ที่ 140 บาท
- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่ 102.20 บาท
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ให้ราคาไว้ที่ 101 บาท
- บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ไว้ที่ 28.75 บาท
**บล. ยูไนเต็ด - ยังคงแนะนำ "ซื้อ" KBANK,acl,bbl,bay
************
11/11/52
dbvs:Top Picks – พ.ย.52 : BECL, DCC, IRP, TMT และ SC
Top Picks หุ้นปันผลสูง : DCC, MCS, TMT, SC, PRIN, CPNRF, SPF, TFUND
************
11/11/52
tisco:หุ้นน่าสนใจ ; BCP , PTTEP , SCC , BBL , KBANK , LPN , AP , QH , LH , BH , BGH , KH
10/11/52
fss:overwieght electronics ;delta , hana ,kce
fss:underweight;กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ ;top pick :kest
**********
04/11/52
kimeng :cpf, global ,sena
**************
29/10/52
สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2552
ADVANC / PTTEP / TSTH / QH / BGH / TPAC

***********
29/10/52
kks ; neutral bank ;top pick :bay ,kbank
**********
21/10/52
kimeng top pick ; bay
*********
19/10/52
dbsv :Top Picks
– ต.ค.52 : CPF, CPN, DTAC, KBANK, SPALI, TSTH
Top Picks หุ้นปันผลสูง : DCC, MCS, CPNRF, SPF, TFUND